Jul 30, 2008

- อาฟเตอร์ ดาร์ก - ราตรีมหัศจรรย์ - บททดลองอ่าน

....เอี้ยด....

สายรายงานมาด่วนจี๋ สดใหม่ราวกับอยู่ในเหตุการณ์ว่า วันนี้มีแฟนมูราคามิ ติดตามล่าหาหนังสือเล่มใหม่ คือ อาฟเตอร์ ดาร์ก หรือในชื่อไทยว่า "ราตรีมหัศจรรย์"ในงานอมรินทร์ บุค แฟร์ แล้วต้องผิดหวังเมื่อปรากฎว่าหนังสือยังไม่วางแผง สอบถามเจ้าหน้าที่ก็ไม่มีใครรู้เรื่อง

โธ่ๆๆๆ ... ขออภัยที่ทำให้เสียเที่ยวนะคะ แต่ทางโรงพิมพ์ภาพพิมพ์แจ้งยืนยันมาแน่นอนว่า หนังสือเสร็จเรียบร้อยลงจากแท่น ส่งให้สายส่งเรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ อาจจะเป็นเพราะการจราจรติดขัดบริเวณหน้าศูนย์สิริกิติ์ หนังสือจึงยังไปไม่ถึง คาดว่าคงกินเวลาไม่นาน

ตั้งแต่วันศุกร์ที่ ๑ สิงหา รับรองมีแน่นอนค่ะ

เพื่อเป็นการปลอบใจ... ท่านใดที่พลาดไป ถ้ารอได้อีกนิด สั่งหนังสือโดยตรงกับเราที่ gammemagie@gammemagie.com รับส่วนลด ๑๕% พร้อมลายเซ็นคุณนพดล เวชสวัสดิ์ และโปสเตอร์ขนาดใหญ่ (ให้เป็นพิเศษเลย ปกติเราจะแจกให้ผู้ที่ซื้อครบสามเล่มเท่านั้น)ฝากไปรษณีย์ไทยส่งให้ถึงบ้าน

ระหว่างที่รอ คลิกภาพประกอบขวามือ เพื่ออ่านบทตัวอย่างแรก เป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนได้ค่ะ

Jul 25, 2008

เผยโฉม โปสเตอร์

.
-------------------------------------
ออกแบบเป็นพิเศษ จัดพิมพ์เพื่อเอาใจแฟนๆ มูราคามิโดยเฉพาะ

มีให้เลือกสะสมสองขนาด

ครึ่ง A3 ขนาดเล็ก เมื่อซื้อหนังสือในชุดนี้หนึ่งเล่ม
ซื้อทั้งชุด รับไปเลย ขนาดใหญ่ ครึ่ง A2

ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งนะจ๊ะ


Jul 24, 2008

กระดานความเคลื่อนไหวล่าสุดของสำนักพิมพ์กำมะหยี่

________________________________________________

เพล้ง!!!!

มีใครได้ยินเสียงอะไรแตกหรือเปล่าคะ

หน้าของเราเองค่ะ ฮ่าๆๆๆ

(เอ้า เก็บเศษหน้าที่กระจัดกระจายไปทั่วกลับคืนมาแล้ว ลุกขึ้นจับโทรโข่งป่าวประกาศใหม่)

หลังจากประกาศโม้ไปหมาดๆว่า เราจะออกหนังสือชุดมูราคามิสามเล่มรวดของเราก่อนกำหนดฉาย เอ้ย...วางแผง เพื่อให้ทันงาน "Amarin Book Fair ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 30 ก.ค. ถึง 3 ส.ค.นี้ ปรากฎว่า ข่าวล่าสุดแจ้งว่า คิวแท่นพิมพ์แน่นเอี้ยด ออกหนังสือทันงานได้แค่เล่มเดียวคือ "ราตรีมหัศจรรย์" (After Dark) หนังสือเล่มล่าสุดของพี่มุรา (Haruki Murakami)

ส่วนอีกสองเล่มคือ Norwegian Wood กับ A Wild Sheep Chase จะติดตามมาร้อนๆ วันที่ ๕ สิงหาคมนี้ ตามกำหนดเดิมจ้า

ส่วนโปสเตอร์ที่ออกแบบเพื่อการสะสมเนื่องในโอกาสอันงดงามนี้โดยเฉพาะ พิมพ์เสร็จเรียบร้อย รอให้แฟนๆ มารับเท่านั้น

รีบจับจองเป็นเจ้าของก่อนใครได้แล้วในงานนี้

ช้า หมด อด ไม่รู้ด้วยเน้อ

Jul 21, 2008

ความคืบหน้าอื่นๆ ที่เราว่าน่าสนใจ :)

________________________________________________

กำมะหยี่จัดรายการพิเศษสุด ทั้งลดราคา ทั้งแจกของแถม

สำหรับผู้ที่สั่งซื้อหนังสือโดยตรงที่ gammemagie@gammemqgie.com นอกจากจะได้รับส่วนลด 15% และรอรับหนังสือสบายอารมณ์อยู่ที่บ้าน แถมยังจะได้โปสเตอร์เอาไปสะสมแล้ว

คุณนพดล เวชสวัสดิ์ นักแปลคนขยันของเรายังเปิดไฟเขียว พร้อมสะบัดปลายปากกาเซ็นลายเซ็นสวยๆให้ในโอกาสพิเศษสุดนี้ด้วย

อีเมลมาด่วน! เพราะมีจำนวนจำนวนจำกัด (เนื่องจากเกรงใจคนเซ็น)

ส่วนลายเซ็นของมูราคามิ อาจจะต้องรอเล่มต่อๆไปที่เรากำลังติดต่อลิขสิทธิ์อยู่นะจ๊ะ



- ชุด “มูราคามิ”

หลังจากประสานงานบรรเลงเพลงราววงออเครสตา (ดังสำนวนของคุณนพดล เวชสวัสดิ์) ในที่สุดก็ส่งเราก็ไฟล์ต้นฉบับไปยังโรงพิมพ์ภาพพิมพ์เรียบร้อยแล้ว “คุณจ้อก” ณ โรงพิมพ์ภาพพิมพ์มีน้ำใจรับปากจะลัดคิวขึ้นแท่นให้โดยด่วน เพื่อให้ทันอวดโฉมทันงานอมรินทร์ บุค แฟร์

ทางด้านทีมงานเตรียมตัวแบ่งหน้าที่ตรวจพรู้ฟขั้นสุดท้าย ก่อนจะส่งผลงานที่เราภาคภูมิใจชิ้นนี้ออกสู่อ้อมใจแฟนๆมูราคามิที่สนใจสอบถามมามากมายทาง gammemagie@gammemagie.com

นอกจากหนังสือแล้ว กำมะหยี่ยังทุ่มทุนจัดทำโปสเตอร์ของหนังสือชุดนี้เป็นพิเศษ รายละเอียดและเงื่อนไขการจับจองเป็นเจ้าของ จะนำมาแจ้งในโอกาสต่อไป




- Persepolis - แพร์ซโพลิส

เพื่อให้ผลงานที่เรารักมากชิ้นนี้ออกมาสำเร็จเรียบร้อยสมกับการรอคอยของใครหลายๆคน เราจึงขยายเวลาการทำงาน เลื่อนกำหนดวางแผงออกไป จากเดิมจะวางตูมตามทีเดียวพร้อมกับชุดมูราคามิวันที่ 5 สิงหานี้ ไปเป็นสิ้นเดือนสิงหาแทน

งานจัดทำการ์ตูน ดูผาดๆเหมือนจะไม่มีอะไรมาก แต่ที่จริงแล้วเป็นงานละเอียดอ่อน ต้องใช้เวลาและสายตาคมกริบคอยตัดต่อเนื้อความให้ลงช่องอย่างลงตัว แพร์ซโพลิส ทั้งสองเล่ม อยู่ระหว่างการตรวจแก้ไข และการออกแบบปกใหม่ ซึ่งถึงแม้ว่าจะสามารถนำปกของเวอร์ชั่นฝรั่งเศสมาใช้ แต่เราเลือกจะมอบหมายให้คุณอาร์ท (http://www.try2benice.com) ผู้แทบจะเป็นฝ่ายศิลป์ของเรากลายๆ แล้วดูแลจัดการ “เสก” สรรค์ออกมามากกว่า

ดูจากกำหนดการและความตั้งใจของผู้ร่วมงานทุกคนแล้ว งานชิ้นนี้ต้องออกมาทันกำหนดอย่างเรียบร้อยสวยงามแน่นอน



ไอหมูซู่ซ่า (ชื่อชั่วคราว)

ผลงานเขียนชิ้นแรกของสิบเดซิเบล และเป็นหนังสือเล่มที่สามของเขาที่เราจะจัดพิมพ์เป็นลำดับต่อไป ขณะนี้ผ่านการตรวจพิจารณาปรับเกลา ลดดีกรีความทะลึ่งทะเล้นให้อยู่ในระดับที่คนทั่วไปยอมรับได้จากบรรณาธิการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รอเพียงคิวจัดหน้า ออกแบบปก และอื่นๆ ก่อนจะส่งโรงพิมพ์ ขึ้นแท่น วางแผงต่อไปภายในปีนี้แน่นอน



ผลงานสำหรับปีหน้า

ระหว่างการจัดพิมพ์หนังสือที่จะออกในปีนี้ ซึ่งเราตั้งใจว่าจะออกสัก 8 เล่มพอ เพื่อให้เหมาะสมกับขนาดสำนักพิมพ์ เมื่อมีเวลาว่าง ถึงจะแสนน้อยนิด แต่ทีมงานของเราก็ไม่ละเลย เที่ยวสอดส่ายสายตาเฟ้นหานักเขียนไทยหน้าใหม่ไฟแรงและหนังสือจากนักเขียนต่างประเทศในหลายๆภาษา เพื่อนำเสนอในปีหน้าและปีต่อๆไป

ผลงานของกำมะหยี่ส่วนใหญ่จะเป็นผลงานแปลจากต่างประเทศ ขณะเดียวกันจะมีการเปิดตัวนักเขียนไทยใหม่ๆที่น่าสนใจด้วยเช่นกัน โดยจะแบ่งผลงานออกเป็น 2 คอลเล็คชั่น คือ

1. Grande Magie (Grand Magic) ผลงานของนักเขียนใหญ่ที่ได้รับการยกย่องทางวรรณกรรม เช่น มุราคามิ, กาเบรียล การ์เซีย มาร์เกซ , มิลาน คุนเดรา, มาร์เซล พรูตซ์ และนักเขียนที่ได้รับรางวัลใหญ่ๆ เช่น รางวัลโนเบล, บุคเกอร์, พูลิตเซอร์

ถึงแม้ว่างานของหนังสือชุดนี้จะหนักหน่วง หาคนอ่านยาก ใครๆก็เป็นห่วงว่ามีเปอร์เซ็นต์ขาดทุนสูง แต่เราตั้งใจจะทำออกมาอย่างน้อยปีละเล่มหรือสองเล่ม


ความเคลื่อนไหวล่าสุด

- หนังสือของนักเขียนรางวัลโนเบลคนหนึ่ง (ขออุบชื่อไว้ก่อนนะจ๊ะ) เราติดต่อเจาะเรื่องลิขสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว เหลือแต่รอเลือกเรื่อง และคำตอบจากนักแปลที่เราติดต่อไว้เท่านั้น


2. Petit Bijou (Little Gem) ผลงานของนักเขียนที่มีความสดใหม่ ควรค่ากับการสนับสนุน ทั้งงานไทยและงานแปล

เล่มหนึ่งเป็นหนังสือสวีเดน ติดต่อลิขสิทธิ์สำเร็จถึงตัวเจ้าของแล้ว เหลือแต่การคัดเลือกนักแปลจากภาษาสวีเดนที่เหมาะสมเท่านั้น อีกเล่มเป็นหนังสือฝรั่งเศสล้อเลียนหนังสือดัง ดาวินชี โค๊ด ภาคเกเก้ โดยนักแปลหน้าใหม่สำนวนร้ายกาจกระชากใจ รับรองได้หัวเราะกันน้ำตาเล็ดน้ำตาไหล มีคนบอกว่าอย่าดูหมิ่นเกย์พาวเวอร์ (นะยะ) ... เราจะรอดู และอีกหลายๆเล่มจากหลายชาติหลากภาษา ทางทีมงานกำลังคัดเลือกกันอย่างพิถีพิถัน

นอกจากนั้น สิบเดซิเบล นักเขียนคนเก่งเจ้าประจำของเราก็จะมีผลงานให้ตามอ่านกันอย่างน้อยสองเล่ม และมีความเป็นไปได้ว่า เราอาจจะได้เปิดตัวนักเขียนไทยใหม่ๆ อีกสักคนสองคนด้วยนะ


พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง

แพร์ซโพลิส ๒ - คืนบ้านเกิด

Persepolis 2

ภาพวาดเป็นภาษาสากล เวลาวาดภาพในสถานการณ์ใดออกมา เช่น คนกำลังกลัวหรือมีความสุข ภาพนั้นจะมีความหมายเดียวกันในทุกวัฒนธรรม เราไม่อาจวาดภาพคนร้องไห้และสื่อให้คนในอีกวัฒนธรรมหนึ่งเข้าใจว่าเขากำลังมีความสุข เขาก็จะแสดงออกในลักษณะเดียวกัน นี่คือความตรงไปตรงมาของภาพวาด"-มาร์จอเน่ ซาทราพิ

ในปี 1984 มาร์จอเน่หลีกหนีจากความกดดันของการปกครองภายหลังการปฏิวัติอิสลามและสงครามอิรักเพื่อไปเรียนต่อในเวียนนา ที่นั่น เธอได้เจอกับบททดสอบของชีวิตวัยรุ่นที่ต้องเติบโตห่างจากเพื่อนและครอบครัว หลังจากการต่อสู้กับการแสวงหาความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคมต่างถิ่น เธอเดินทางกลับอิหร่านด้วยใจท้อแท้ และต้องเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเองและประเทศของตน จนนำไปสู่การตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิต...อีกครั้ง

จากใจกำมะหยี่ :

กรุณาเรียงตามลำดับ!

ท่านผู้อ่านโปรดทราบ

แพร์ซโพลิส ๒ เล่มนี้เป็นตอนต่อจาก แพร์ซโพลิส ๑
หนังสือชุดนี้เป็นเรื่องราวชีวิตของเด็กหญิงชาวอิหร่านผู้หนึ่งตั้งแต่เด็กน้อยจนเติบใหญ่
เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นหล่อหลอมเป็นตัวตนของเธอนั้น ไล่เรียงลำดับอายุตามลำดับเล่ม
หากต้องการเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นกับ “นางสาวมาร์จอเน่” ในเล่มนี้อย่างถ่องแท้
ได้โปรดทำความรู้จักกับ “เด็กหญิงมาร์จี้” ในเล่มหนึ่งเสียก่อน


เขาว่ากันว่า :

"เรื่องล่าสุดและหนึ่งในตัวอย่างที่หฤหรรษ์ของงานเขียนยุคโพสต์โมเดิร์นที่กำลังได้รับความนิยม นั่นคืออัตถชีวประวัติในรูปของการ์ตูน...ลายเส้นของซาทราพินั้นคมกล้าและชัดเจน"--เดอะนิวยอร์กไทมส์บุ๊กรีวิว

"ทั้งการบรรยายและลายเส้นก่อเกิดเป็นภาพที่ทรงพลัง สนุกและสะเทือนใจไปกับชีวิตภายใต้การปกครองของเผด็จการ ... ตอนจบทรงพลัง ละมุนละไม ชวนให้น้ำตาซึม" --ชิลเดรน ลิตเทอเรเจอร์

>>> ดาวน์โหลดตัวอย่างไปลองอ่านดู




ผู้เขียน มาร์จอเน่ ซาทราพิ

มาร์จอเน่ ซาทราพิเกิดเมื่อปี 1969 ในเมืองราชท์ ประเทศอิหร่าน เติบโตที่กรุงเตหะราน ก่อนจะเดินทางไปกรุงเวียนนา โดยต่อมาจบการศึกษาด้านศิลปะที่เมืองสตราสบูร์ก ประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบัน มาร์จอเนใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงปารีส ออกผลงานภาพประกอบอย่างสม่ำเสมอ ทั้งยังเขียนวรรณกรรมเด็กหลายเล่ม ผลงานภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง Persepolis ที่เธอสร้างร่วมกับแวงซองต์ ปารงโนด์ ได้รับรางวัลจูรีไพรส์ จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ และอีกหลายรางวัลทั่วโลก


>> คลิกไปรู้จักกับเธอเพิ่มเติม พร้อมอ่านสัมภาษณ์เจาะใจ

แพร์ซโพลิส ๑ - เรื่องราวเมื่อเยาว์วัย

Persepolis 1

บันทึกความทรงจำขำขัน คมคายและสะเทือนใจ ของมาร์จอเน่ ซาทราพิ นักวาดการ์ตูนหญิงชาวอิหร่าน ผู้ผ่านช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงต่างๆในบ้านเกิดเมืองนอนของตน โดยถ่ายทอดประสบการณ์วัยเด็กที่เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ของประเทศออกมาได้อย่างวิเศษ

แพร์ซโพลิส เล่าเรื่องราวผ่านสายตาของเด็กหญิงตัวน้อยผู้ชาญฉลาดและกล้าพูดกล้าคิด เรื่องราวของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่และเป็นเครื่องเตือนใจให้ตระหนักถึงผลของสงครามและการกดขี่ทางการเมือง ทำให้ได้เห็นวิธีดำเนินชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวและความเลวร้ายของชีวิต และสุดท้าย ทำให้หลงรักเด็กน้อยคนนี้จนหมดใจ


- รางวัลสันติภาพ เฟร์นันโด บวยซา (สเปน) ปี 2003
- "เบสต์คอมิกซ์ออฟเดอะเยียร์" ของ ไทมส์
- หนังสือดีของ นิวยอร์กไทมส์

จากใจกำมะหยี่:

สำนักพิมพ์กำมะหยี่จัดพิมพ์หนังสือการ์ตูน (หรือนิยายภาพ หรืออัตชีว-ประวัติเชิงลายเส้น สุดแต่ประสงค์จะเรียกขาน ตามทัศนคติและเหตุผลต่างๆ นานาของท่าน) เล่มนี้ เพราะเราเล็งเห็นถึงความสำคัญของความแตกต่าง

Persepolis ชื่อของหนังสือเล่มนี้ สามารถอ่านออกเสียงได้หลายอย่าง ด้วยเหตุผลและหลักการที่แตกต่างกัน: แปร์เซอโปลิส (ตามการออกเสียงแบบฝรั่งเศส ต้นฉบับแรกเริ่ม) เพิร์สโพลิส (ตามการออกเสียงในภาษาอังกฤษ ภาษาที่ทำให้หนังสือชุดนี้รู้จักแพร่หลายทั่วโลก) เพอร์เซ็พโพลิส (ตามการออกเสียงตามนัยยะทางประวัติ-ศาสตร์ยึดตามภาษากรีก ชนชาติที่เคยเข้าครองนครแห่งนี้) จนถึง แพร์ซโพลิส ที่เราเลือกใช้ตามการออกเสียงของชาวอิหร่านที่เรารู้จัก และเข้าใจว่าแม้แต่คนอิหร่านด้วยกันเองอาจจะมีคนออกเสียงคำๆ นี้ในสำเนียงที่ต่างออกไป

นอกจากชื่อเรื่องแล้ว Persepolis นำเสนอความแตกต่างในหลายมิติ เรื่องราวของผู้คนที่อยู่ในประเทศที่มีสภาพสังคมไม่เหมือนประเทศของเรา เล่าถึงยุคสมัยและเหตุการณ์ที่เราไม่เคยประสบ ผ่านมุมมองของเด็กหญิงผู้กล้าจะแตกต่างจากคนในสังคมของตน

ความแตกต่างอาจเป็นตัวการสร้างความวุ่นวาย เป็นชนวนสงคราม และเป็นข้ออ้างของการลงมือใช้ความรุนแรง แต่ในอีกด้านหนึ่ง ความแตกต่างนำมาซึ่งการสร้างสรรค์ ช่วยขับเคลื่อนให้โลกของเราพัฒนาก้าวหน้า ช่วยเปิดโลกทัศน์เพิ่มพูนความรู้ หากเปิดใจกว้างรับมุมมองและเหตุผลของความแตกต่างนั้นๆ

และผู้ที่จะตัดสินใจว่า จะเลือกมองเจ้าความแตกต่างนี้ในแง่มุมไหน คือ ตัวท่านเอง


เขาว่ากันว่า :

"ซาทราพิทำให้วัยเยาว์ที่เต็มไปด้วยตำรวจลับและสงครามอันยาวนานกลายเป็นการ์ตูนที่ทั้งสนุกและมืดมน"—ซานฟรานซิสโก
ครอนิเคิล

"บันทึกความทรงจำที่ไม่เหมือนใครและสดใหม่ที่สุดแห่งยุค"--ลอสแองเจลิส ไทมส์



>>> ดาวน์โหลดตัวอย่างไปลองอ่านดู





ผู้เขียน มาร์จอเน่ ซาทราพิ

มาร์จอเน่ ซาทราพิเกิดเมื่อปี 1969 ในเมืองราชท์ ประเทศอิหร่าน เติบโตที่กรุงเตหะราน ก่อนจะเดินทางไปกรุงเวียนนา โดยต่อมาจบการศึกษาด้านศิลปะที่เมืองสตราสบูร์ก ประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบัน มาร์จอเนใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงปารีส ออกผลงานภาพประกอบอย่างสม่ำเสมอ ทั้งยังเขียนวรรณกรรมเด็กหลายเล่ม ผลงานภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง Persepolis ที่เธอสร้างร่วมกับแวงซองต์ ปารงโนด์ ได้รับรางวัลจูรีไพรส์ จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ และอีกหลายรางวัลทั่วโลก


>> คลิกไปรู้จักกับเธอเพิ่มเติม พร้อมอ่านสัมภาษณ์เจาะใจ

นพดล เวชสวัสดิ์


เกิดวันที่ 21 กันยายน 2494
มัธยมปลาย โรงเรียน เบญจมมหาราช อุบลราชธานี
นักเรียนแลกเปลี่ยนทุน AFS สปริงวิลล์ มลรัฐนิวยอร์ก 1970-1971
นิสิตวนศาสตร์ เกษตร
นิติศาสตร์บัณฑิต รามคำแหง

ประวัติการแปล 2526-ปัจจุบัน
บทความ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 300 ชิ้น
นิยายวิทยาศาสตร์เรื่องสั้น 100 เรื่อง
นิยายซ่อนเงื่อนสยองขวัญ เรื่องสั้น 100 เรื่อง
ผลงานแปล 265 เล่ม

ฮารูกิ มูราคามิ

Haruki Murakami

ตำนานกล่าวไว้ว่า ในวันที่อากาศอบอุ่นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี 1974 ขณะดูเบสบอลอยู่ ฮารูกิ มูราคามิ ก็เกิดแรงบันดาลใจในงานเขียนนิยายเล่มแรก ที่ต่อมาได้ชื่อว่า “สดับลมขับขาน” (Hear the Wind sing)

หนังสือเล่มนี้ได้รับรางวัลหนังสือดีเด่นจากนักเขียนหน้าใหม่ และเป็นจุดเริ่มต้นของไตรภาคมุสิก (Trilogy of the Rat) ที่ต่อด้วย พินบอล 1973 (Pinball 1973) และ แกะรอยแกะดาว (A Wild Sheep Chase) งานเขียนของเขาประสบความสำเร็จได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และมีผลงานออกมาอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นนวนิยาย เรื่องสั้น ความเรียงและบทความสารคดี

ฮารูกิ มูราคามิ เกิดที่เมืองเกียวโต เมื่อปี ค.ศ. 1949 แต่ในช่วงวัยเด็กที่เมืองโกเบ พ่อของเขาเป็นพระนักบวช ส่วนแม่เป็น ลูกสาวพ่อค้าในเมืองโอซากา ทั้งสองเป็นครูสอนวิชาวรรณกรรมญี่ปุ่น มูราคามิได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมตะวันตก มาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะดนตรีและวรรณกรรม เขาเติบโตพร้อมกับการอ่านผลงานของนักเขียนอเมริกันมากมาย เช่น เคิร์ท วอนกุต (Kurt Vonnegut) และ ริชาร์ด โบรติกัน (Richard Brautigan) ผลงานของเขาแตกต่างจากนักเขียนญี่ปุ่นคนอื่นๆ เนื่องจากอิทธิพลตะวันตกนี้นั่นเอง

เขาเรียนวิชาศิลปะการละครที่มหาวิทยาลัยวาเซดะ กรุงโตเกียว ทำงานครั้งแรกในร้านขายแผ่นเสียง (ซึ่งงานเดียวกับโทรุ วาตานาเบะ ตัวละครเอกในเรื่องนอร์วีเจียนวูด) ไม่นานหลังจากเรียนจบ ในช่วงปี ค.ศ. 1974 -1982 เขากับโยโกะ-ภรรยาของเขา เปิดร้านกาแฟ (และเปลี่ยนเป็นบาร์แจ๊ซในตอนกลางคืน) ชื่อ “ปีเตอร์ แค็ต” ในย่านโกกุบุนจิ ที่โตเกียว นวนิยายของเขาหลายเรื่องมีแก่นเรื่องจากเพลงและมีการกล่าวถึงเพลงคลาสสิกมากมาย


>> ฮารูกิ มูราคามิ VS 10 คำถามในนิตยสาร Time

พลพรรคสำนักพิมพ์กำมะหยี่

อธิชา มัญชุนากร กาบูล็อง

อธิชา มัญชุนากร เป็นที่รู้จักกันในฐานะนักแปลหนังสือฝรั่งเศส ที่มีผลงานออกสู่สายตานักอ่านมาแล้วมากมายหลากหลาย หลังจากลงจากคานทอง เพิ่มนามสกุล “กาบูล็อง” ต่อท้ายยาวเหยียดอีกหนึ่งนาม เธอก็จับผลัดจับผลูมาเป็นเจ้าสำนักพิมพ์กำมะหยี่โดยบังเอิญ

ด้วยความที่หนังสือเล่มหนึ่งที่เธอแปลกล่าวไว้ว่า “ความบังเอิญ เป็นเครื่องมือที่พระเจ้านำมาใช้เมื่อท่านไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัว” เมื่อมีโอกาสได้ออกงานสร้างสรรค์ที่ให้ประโยชน์ต่อสังคมไทยในระยะยาวด้วยการผลิตหนังสือดีๆ ดังนี้แล้ว เธอจึงตั้งใจแน่วแน่ว่าจะรุดหน้าสานต่อภารกิจที่ได้รับมอบหมายมานี้อย่างดีที่สุด

ปัจจุบัน อธิชาประสานงานกิจการสำนักพิมพ์กำมะหยี่ผ่านอีเมลและการสื่อสารระบบอื่นๆ จากเมืองบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย

>> ติดตามชีวิต "มาดามมิว" ได้ >>> ที่นี่






สิบเดซิเบล

นักเขียนลึกลับ มาเขียนหนังสือได้เพราะความชิบหายส่องแสงสว่างนำทางให้

มีคนบอกครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นเจ้าของร้านเหล้า ครั้งหนึ่งเคยเป็นพระเอกมิวสิควิดีโอ เจ้าของเหลาจีน อาจารย์สอนคณิตศาสตร์ ขายสมุนไพรบ้างเป็นครั้งคราว เป็นบาร์เทนเดอร์ หรือแม้กระทั่งเป็นคนขายปู แต่อดีตก็คืออดีต หาได้สำคัญใม่ ปัจจุบันเขาหมกมุ่นกับการเขียนหนังสือ มีความสุขกับการเป็นนักเขียนลึกลับ ลึกลับแม้กระทั่งแม่ของเขาเองก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นนักเขียน

>> ติดตามชีวิตที่หยอกล้อกับความชิบหายของเขาได้ >>> ที่นี่






ศรินนี วราทร

ศรินนี วราทร อายุครบสามรอบในปีที่สำนักพิมพ์กำมะหยี่กำลังหัดเดิน ปีที่มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย เธอจบบัญชี จุฬาฯ ต่อโทด้านโทรคมนาคมที่ยูนิเวอร์ซิตี้ออฟเดนเวอร์ สหรัฐอเมริกา

ทำงานมาหลายตำแหน่งหลากแขนง ตั้งแต่เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ พนักงานวิเคราะห์สินเชื่อ ผู้ตรวจการธนาคารพาณิชย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไอที ดูแลลูกค้าบริษัทให้บริการอินเทอร์เน็ต ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริการทางการเงินผ่านมือถือ ผู้ช่วยเจ้าของกิจการ ทำตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ หรือแม้กระทั่งออกมาเล่นหุ้นเอง หากไม่มีอะไรถูกใจเท่ากับมีส่วนร่วมในการทำหนังสือ

เธออยากปลูกฝังให้คนไทยรักการอ่าน เพราะเชื่อว่าหนังสือทำให้เกิดปัญญาไม่หลงมัวเมากับสิ่งเสพติดและประพฤติผิดศีลธรรม

>> ติดตามความเคลื่อนไหวแสนไฮเปอร์ของเธอได้ >> ที่นี่






ศรรวริศา เมฆไพบูลย์

ศรรวริศา เมฆไพบูลย์ วนเวียนเข้าออกอยู่ในแวดวงนักอ่านนักเขียนมาตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ หลังจากเรียนจบด้านภาษาและการทำนิตยสาร และลองไปทำอะไรต่ออะไรจนพอสมควรแก่อายุแล้ว ก็ตัดสินใจกลับคืนวงการน้ำหมึกอีกครั้ง มีประสบการณ์ทำนิตยสาร เขียนบทความ แปลหนังสือ และบรรณาธิกรต้นฉบับมาบ้าง แม้จะไม่มากนัก แต่อาศัยลูกบ้าและใจรักมาขอร่วม "ขบวนการบันดาลสิ่งมหัศจรรย์จากตัวอักษร" ด้วยคน ถึงจะไม่ใช่ผู้ร่วมก่อการ แต่ก็ตกกระไดพลอยโจนมาด้วยความเต็มอกเต็มใจยิ่ง

>> ติดตามบันทึกบ่นๆ ปนสาระของเธอได้ >>> ที่นี่






ฟิลิปป์ กาบูล็อง


ฟิลิปป์ กาบูล็อง เกิดในปีที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งใน “กรองด์ อันเน่” หรือ ปีที่ไวน์มีรสเลิศที่สุดของศตวรรษที่ 20 ที่เมืองอาเมียงส์ แคว้นปิการ์ดี ประเทศฝรั่งเศส นอกจากจะเป็นคู่ชีวิต คอยค้ำชูให้กำลังใจ เป็นที่ปรึกษา เกื้อหนุนให้เจ้าสำนักหญิงแห่งสำนักพิมพ์กำมะหยี่ยืนหยัดปฏิบัติภารกิจให้ลุล่วง และเป็นตากล้องคอยถ่ายรูปสวยๆ เพื่อลงเป็นปกหนังสือแล้ว เขายังเป็นเสาหลักของกำมะหยี่ เพราะเป็นคนคอยควักกระเป๋านำเงินเดือนที่ได้จากงานประจำที่ทำอยู่มาเป็นทุนดำเนินการของสำนักพิมพ์ด้วย

ราตรีมหัศจรรย์

After Dark (ชื่อญี่ปุ่น –AFTER DARK)
ผู้แต่ง : ฮารูกิ มูราคามิ (Haruki Murakami)
ผู้แปล : นพดล เวชสวัสดิ์
จัดพิมพ์ครั้งที่ 1 (สิงหาคม 2551)
จำนวนหน้า 168 หน้า
ราคา 180 บาท

นอกประเทศญี่ปุ่น ผลงานของมูราคามิไม่ได้รับการแปลและเสพประหนึ่งวรรณกรรมที่เป็นสัญลักษณ์แห่งวัฒนธรรมญี่ปุ่นฃดุจเดียวกับนักเขียนร่วมชาติ แต่ผู้อ่านจากทุกวัฒนธรรมจะเสพงานของเขาในฐานะที่เป็นเรื่องราวซึ่งช่วยบรรเทาภาพลวงทางการเมือง เงื่อนปมของความรัก ความเหงา และความเปล่าดายของตน ก่อนจะได้ตระหนักว่า ผู้เขียนเป็นชาวญี่ปุ่น และอันที่จริงแล้ว ผลงานเหล่านั้นเป็นการถอดความจากต้นฉบับมาอีกทอดหนึ่ง

ในช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงยามราตรี ตัวละครที่มีความแปลกแยกและแตกต่างทยอยเข้าสู่เวทีเล็กๆกลางเมืองใหญ่ บ้างปรารถนาจะหลบเลี่ยงความจริงบางอย่างของชีวิต บ้างปรารถนาจะเติมเต็มจิตวิญญาณของตนด้วยการหลอมรวมกับคนอื่น

แก่นกลางของเรื่อง ได้แก่ พี่น้องสองสาว เอริ นางแบบสาวผู้ใช้นิทรารมย์เป็นเครื่องหลีกเร้นหลบหนี กับ มาริ สาวน้อยนักศึกษาผู้ฝังตัวใต้เงาของหนังสือเล่มหนาในร้านอาหาร ก่อนจะถูกชักนำให้เข้าไปสัมผัสชีวิตกลางคืนของบรรดาคนแปลกหน้า ไม่ว่าจะเป็น หนุ่มนักดนตรีผู้เข้ามาทักถาม สาวร่างใหญ่ผู้จัดการ 'โรงแรมฉ่ำรัก' ที่แวะมาขอความช่วยเหลือ และโสเภณีชาวจีนผู้ถูกทำร้ายอย่างทารุณจากพนักงานบริษัทคอมพิวเตอร์ ที่คล้ายจะแผ่รังสีคุกคามชวนอึดอัดมุ่งปองร้ายพี่สาวของเธอถึงห้องนอน

การได้สัมผัสซอกมุมร้าวเร้นของเพื่อนมนุษย์ภายใต้แสงสลัวแห่งรัตติกาลนี้กระชากหน้ากากของความทุกข์ และเผยโฉมหน้าความเปล่าดายว่างโหวงของชีวิต ซึ่งมีเพียงความมหัศจรรย์เท่านั้นที่จะเติมเต็มได้

จากใจกำมะหยี่:

หลังจากนำเสนอผลงานของ สิบเดซิเบล นักเขียนไทยที่เราเชื่อมั่นสู่สายตาผู้อ่านสองเล่ม สำนักพิมพ์กำมะหยี่หาญจัดแปลและพิมพ์ผลงานเล่มล่าสุดของฮารูกิ มูราคามิ นักเขียนญี่ปุ่นชื่อดัง เพื่อเป็นหนังสือเปิดตัว “แกรนด์ เมจิก” หนังสือชุดนักเขียนใหญ่ของเรา พร้อมกันนี้ยังได้จัดพิมพ์ซ้ำ Norwegian Wood หรือในชื่อภาษาไทยว่า "ด้วยรัก ความตาย และหัวใจสลาย" และ A Wild Sheep Chase หรือ "แกะรอย แกะดาว” ผลงานของผู้เขียนเดียวกัน เพื่อกำนัลแด่ผู้ที่พลาดโอกาสการเป็นเจ้าของผลงานอันทรงคุณค่าทั้งสองเล่มนี้

สำหรับ After Dark หรือในชื่อภาษาไทยว่า "ราตรีมหัศจรรย์" เล่มนี้ เราหวังว่าเรื่องราวหลากหลายของผู้คนในยามค่ำคืนที่ได้รับการบอกเล่าอย่างน่าพิศวงผ่านปลายปากกาของนักเขียนเอกจะพาผู้อ่านโลดแล่นไปในโลกยามราตรีด้วยใจจดจ่อ ให้ได้ย้อนนึกถึงความสัมพันธ์ต่อผู้คนรอบกายและความในใจลึกๆที่ไม่เคยเอื้อนเอ่ย

เพื่อที่คน "ใกล้" จะได้ไม่เป็นคน "ไกล" ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป


เขาว่ากันว่า:

"แม้จะมีตัวละครเพียงน้อยนิดและช่วงเวลายังแสนสั้น จากเที่ยงคืนถึงรุ่งเช้า แต่นวนิยายเล่มนี้มีเรื่องราวและความอาจหาญที่ชวนอ่าน ภาษาอันกระชับและความรักในตัวละครของมูราคามิทำให้เรื่องราวเข้มข้นและน่าติดตาม"—บอสตัน โกลบ

"เรื่องราวหวานขื่นที่น่าจะตอบสนองรสนิยมของนักอ่านผู้สรรหาคุณภาพได้...นวนิยายของมุราคามิเตือนให้เรารู้ว่าโลกนี้กว้างใหญ่นัก เรื่องลึกลับเป็นสากล และในยามที่เราหลับใหล โลกภายนอกนั้นเคลื่อนไปในทิศทางอันลี้ลับและยากจะคาดเดา"—ซานฟรานซิสโก ครอนิเคิล


>>คลิกดาวน์โหลดตัวอย่างไปลองอ่านดู

แกะรอย แกะดาว

A Wild Sheep Chase (ชื่อญี่ปุ่น – HITSUJI O MEGURU BOKEN)
ผู้แต่ง : ฮารูกิ มูราคามิ (Haruki Murakami)
ผู้แปล : นพดล เวชสวัสดิ์
จัดพิมพ์ครั้งที่ 1 (สิงหาคม 2551 - สำนักพิมพ์กำมะหยี่)
จำนวนหน้า 336 หน้า
ราคา 220 บาท

ความสนุกประการหนึ่งในการอ่านงานเขียนของมูราคามิ อยู่ที่การวาดภาพสิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังโลกแห่งความเป็นจริงกับโลก แห่งจินตนาการ อันใดคือภาพที่จะปรากฏ เมื่อความจริงและความฝันบรรจบ แกะรอย แกะดาวก็เช่นเดียวกับนวนิยายส่วนใหญ่ของมูราคามิที่ร้อยเรื่องราวเข้ากับความซับซ้อนซ่อนเงื่อน เผยภาพการปะทะระหว่างจินตนาการอันดิบเถื่อนกับตลกร้าย เผยให้เห็นขนบของนักสืบสุดเท่แต่จอมปลอมผ่านการนำเสนออย่างช่ำชอง

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นที่นักเขียนนิรนามวัยสามสิบกว่าๆ ผู้มีกิริยามารยาทและมีทัศนคติที่เข้าใจโลกและชีวิตอย่างดีว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดและไม่มีเหตุผลที่คนเราจะไปขัดขวางความเป็นไปของธรรมชาติ แต่ในที่สุด เมื่อนำภาพแกะของเพื่อนไปเผยแพร่และถูกอิทธิพลมืดบีบเค้นคุกคาม เขาจึงยอมสลัดความรู้สึกเฉยชาต่อชีวิตและเริ่มออกเดินทางจากโตเกียวพร้อมกับสาวเจ้าของหูมหัศจรรย์ไปยังฮกไกโด ดินแดนหนาวเหน็บ เพื่อตามหาแกะพิสดารตามความประสงค์ของผู้ยิ่งใหญ่ลึกลับอำนาจล้นเหลือ พานพบเรื่องราวพิลึกพิลั่นเกี่ยวพันกับแกะประหลาด และเมื่อทุกอย่างคลี่คลาย อะไร...คือสิ่งที่หลงเหลืออยู่


จากใจสำนักพิมพ์กำมะหยี่ :

สำนักพิมพ์กำมะหยี่มีความภูมิใจและความตั้งใจอย่างสูงในการจัดพิมพ์ แกะรอย แกะดาว หรือ A Wild Sheep Chase ผลงานของฮารูกิ มูราคามิ นักเขียนระดับโลกชาวญี่ปุ่น สู่สายตานักอ่านชาวไทยที่พลาดโอกาสไม่ได้เป็นเจ้าของ ในการจัดพิมพ์ครั้งก่อน

แกะรอย แกะดาว เป็นหนังสือลำดับที่สามของหนังสือชุด Trilogy of the Rat หรือในชื่อไทยที่หลายคนฉงนฉงายว่า ไตรภาคมุสิก

โอ่อ่าไม่คุ้นหู ทว่างามสง่า คงความหมายได้ดีเยี่ยม

ส่วนหนังสือสองเล่มแรกในชุดนี้ คือ สดับลมขับขาน (Hear the wind sing) และ พินบอล 1973 (Pinball 1973) นั้น ปัจจุบันยังสามารถหาซื้อได้ในท้องตลาด ถึงจะยังไม่มีโอกาสได้จัดทำให้ครบถ้วนในวันนี้ เราก็หมายใจจะแกะรอยมาเสนอสนองเพิ่มเติมในวันข้างหน้า


เขาว่ากันว่า :

"...ดุเดือดเลือดร้อน ทั้งเต็มไปด้วยสำบัดสำนวน การเมืองและการกล่าวหา ดูเหมือนมูราคามิจะรู้จักนวนิยายร่วมสมัยของอเมริกันและเพลงฮิตมากมาย แต่บรรยากาศกลางเมือง ตัวละครยัปปี้ และความรู้สึกลึกลับที่ค่อนไปในทางคุกคาม ทำให้นวนิยายของเขามีกลิ่นอายที่แสดงรากเหง้าของสังคมญี่ปุ่นยุคใหม่อย่างชัดเจน" —เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์

"เรื่องราวชวนหัว...เป็นทั้งเรื่องตลกของคนไม่เต็มเต็ง นิยายสืบสวนและการเดินทางของวีรบุรุษ" —ยูเอสเอ ทูเดย์

>>คลิกดาวน์โหลดตัวอย่างไปลองอ่านดู


อ่านคำวิจารณ์ขานไขเพิ่มเติม :

- ความเรียบเรื่อย และแปลกแยก : เสน่ห์ของ " แกะรอยแกะดาว" โดย คุณอรพินท์ คำสอน
- ไตรภาคของมุสิก กับพื้นที่ลี้ลับบนหน้ากระดาษของฮารูกิ มูราคามิ โดย คุณกิตติพงศ์ สนธิสัมพันธ์


ด้วยรัก ความตาย และหัวใจสลาย

Norwegian Wood (ชื่อญี่ปุ่น NORWAY NO MORI)
ผู้แต่ง : ฮารูกิ มูราคามิ (Haruki Murakami)
ผู้แปล : นพดล เวชสวัสดิ์
จัดพิมพ์ครั้งที่ 1 (สิงหาคม 2551)
จำนวนหน้า 376
ราคา 250 บาท

เหตุผลข้อหนึ่งที่ทำให้นวนิยายของมูราคามิมีความสำคัญในระดับนานาชาติอย่างน่าอัศจรรย์ อาจมาจากการร้อยเรื่องราวที่เข้าถึงก้นบึ้งแห่งความแปลกแยกของจิตใจ ความแปลกแยกที่ไม่ได้เกิดจากวัฒนธรรม แต่เกิดจากเงื่อนไขที่เป็นสากลและเป็นรากเหง้าของวัฒนธรรมทั้งหลายด้วยตัวมันเอง

ด้วยรัก ความตาย และหัวใจสลาย เป็นเรื่องราวของความรัก ไม่ใช่ความรักทั่วไป หากเป็นเรื่องราวของชายหนุ่มที่เรียนรู้และเติบโต เรื่องราวของหญิงสาวผู้สับสน เรื่องราวของชีวิตและความตาย

คราใดที่ได้ยินเพลงโปรดของเธอ โทรุ วาตานาเบะ ก็หวนนึกถึงนาโอโกะผู้เป็นรักแรก เรื่องราวที่เกิดขึ้นเกือบยี่สิบปีก่อนสมัยยังเป็นนักศึกษาในโตเกียว ล่องลอยอยู่กับมิตรภาพอันพิลึกพิลั่น ความสัมพันธ์ฉาบฉวย ความปรารถนา การสูญเสีย และความรัก จนกระทั่งสาวน้อยอย่างมิโดริเดินเข้ามาในชีวิต และถึงจุดที่เขาต้องเลือกระหว่างอดีตกับอนาคต


จากใจกำมะหยี่ :

ด้วยรัก และศรัทธาในอานุภาพของวรรณกรรมชั้นเลิศ สำนักพิมพ์กำมะหยี่จึงกล้าเปิดคอลเล็คชัน “แกรนด์ เมจิก” เพื่อเพิ่มพูนความรุ่มรวยให้กับวงการหนังสือไทย โดยมุ่งหวังให้ว่างานที่คัดสรรในหนังสือชุดนี้จะเป็นอาหารสมองให้หนอนหนังสือไทย ให้หนอนน้อยได้มีหนังสือดีๆอ่านจนเติบใหญ่เป็นผีเสื้อที่ไม่งดงามเพียงรูปกาย หากมีอิสระทางความคิดในจิตใจด้วย

ความตาย ของหนังสือคือการสิ้นสลายหายไปจากแผง หนังสือดีๆเปรียบได้กับคนดีๆที่โลกอาวรณ์ โชคดีที่เรายังมีโอกาสกอบกู้ต่อชีวิตของหนังสือที่ควรค่าที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปกลับมาได้ แม้จะต้องแลกกับความเสี่ยงใดๆก็ตาม เป็นเพราะเราเชื่อมั่นในความอัศจรรย์ของมนุษย์ เป็นเพราะเราเชื่อมั่นในผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ เป็นเพราะเราเชื่อมั่นว่าผู้เสพหนังสือจะไม่ทำให้เรา ....

... หัวใจสลาย

เขาว่ากันว่า :

"มูราคามิเล่าเรื่องราวอันละเอียดอ่อน ทรงเสน่ห์ ลึกซึ้ง และเย้ายวนใจของความรักในวัยเยาว์ ที่มุ่งหน้าไปสู่ชะตากรรมแห่งความรันทด" พับลิชเชอร์ส วีกลี

"ด้วยรัก ความตาย และหัวใจสลาย...ไม่เพียงบ่งชี้ หากยังแสดงชัดถึงอัจฉริยภาพของผู้เขียนให้ประจักษ์" ชิคาโก ทรีบูน

>>คลิกดาวน์โหลดตัวอย่างไปลองอ่านดู

เด็กหญิงมุกประดับ

ผู้แต่ง : 10เดซิเบล
จัดพิมพ์ครั้งที่ 1 (มีนาคม 2551)
จำนวนหน้า 118 หน้า
ราคา 120 บาท

“แสงอาทิตย์”แสงอาทิตย์นั้นมีเจ็ดสี แต่ด้วยแสงจากดวงอาทิตย์นั้นให้สีทั้งเจ็ดสีออกมาพร้อมกันโดยสีต่างๆนั้นไม่ได้แยกออกจากกัน เช่นนั้นแล้วเราจึงไม่สามารถมองเห็นแสงของดวงอาทิตย์ได้อย่างจริงแท้ในสีของมัน แสงของดวงอาทิตย์รวมสีทั้งเจ็ดสีอยู่ในนั้น...แน่นอนล้วนเป็นสีที่สวยงาม น่าเสียดายที่ดวงตาเล็กๆเป็นร้อยเป็นพันล้านคู่ไม่สามารถมองเห็นมันในเนื้อแท้ของสีมันได้ จึงไม่แปลกที่มนุษย์หลายคนจึงไม่รู้ว่าแสงอาทิตย์ที่แท้จริงนั่นคือ “สีรุ้ง”

“รุ้ง”ใครหลายคนก็ทราบดีว่ารุ้งนั่นมีเจ็ดสี ไอน้ำที่ระเหยยามหลังฝนทำให้เกิดการหักเหของแสง เช่นนั้นเราจึงสามารถมองเห็นรุ้งงามยามหลังฝนตก เราจะสามารถเห็นรุ้งก็ได้เฉพาะในช่วงนั้น มนุษย์มักชื่นชมและนิยมการได้ยลสีของรุ้งในช่วงเวลาดังกล่าว ในบางครั้งมนุษย์ไม่เคยได้รู้เลยว่าสีรุ้งที่ตัวเองนิยมชมในช่วงเวลาดังกล่าวแท้จริงแล้วเรามองเห็นอยู่ในทุกวินาทีผ่านในชีวิตประจำวัน แต่ธรรมชาติก็คือธรรมชาติ สิ่งบางสิ่งที่กล่าวถึงอาจเป็นการเล่นกลของธรรมชาติและใครบางคนอาจบอกว่าเป็นกรรมของมนุษย์...

เพราะบางอย่างนั้นไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยดวงตา --- 10เดซิเบล



จากใจกำมะหยี่ :

หนังสือเล่มนี้เกิดจากความไม่สมประกอบ เล่าเรื่องราวของเด็กหญิงที่สติไม่สมประกอบคนหนึ่ง

ไม่สมประกอบ เพราะคนเขียนรู้และเน้นย้ำหลายครั้งว่าพิมพ์แล้วจะขาดทุน ไม่สมประกอบ เพราะถึงจะรู้เช่นนั้น สำนักพิมพ์ก็ยังคงจะพิมพ์อยู่

มีคนไม่กี่คนที่รู้ว่าชื่อของสำนักพิมพ์กำมะหยี่ มีที่มาจากคำในภาษาฝรั่งเศส Gamme Magie ที่พอจะกล้อมแกล้มถอดเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า Magic Collection ส่วนในภาษาไทย อาจจะถูไถได้ว่า ชุดอัศจรรย์

งานของเราคือการสร้างความอัศจรรย์ ซึ่งเป็นญาติสนิทกับสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ คนที่ฝืนทำสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ในบางมุม ถูกมองว่าเป็นคนบ้าสติไม่สมประกอบ แต่เมื่อสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เกิดขึ้นแล้ว เมื่อหนังสือเล่มนี้สำเร็จเรียบร้อยอยู่ในมือคุณ อาจจะถึงเวลาทบทวนความหมายของคำว่า สติไม่สมประกอบ อีกครั้ง


เขาว่ากันว่า :

- งานเขียนสบาย ๆ คล้ายนิยายปนบทบันทึกว่าด้วยเรื่องของนักเขียนหนุ่มผู้สับสนที่อาศัยในบ้านแห่งหนึ่ง และเด็กหญิงสติไม่สมประกอบที่อยู่ที่นั่นภาษาของ 10 เดซิเบล ดูผ่อนคลายขึ้น แต่ในบางขณะก็ยังประชดประชันเรื่องต่าง ๆ ในสังคมอยู่พองาม ที่สำคัญ หนังสือเล่มนี้ทำให้เราอยากลองทบทวนความหมายของ "ความสุข" กันสักที - Happening!

>>คลิกดาวน์โหลดตัวอย่างไปลองอ่านดู

คณิตศาสตร์ รส.

ผู้แต่ง : 10เดซิเบล
จัดพิมพ์ครั้งที่: 1 (กันยายน 2550)
จำนวนหน้า:
ราคา: 120 บาท

“คณิตศาสตร์ รส.” เล่มนี้ไม่ได้บรรจุอยู่ในหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ หากจะมีบรรจุอยู่ในหลักสูตร ของกระทรวงฯลฯ ก็น่าจะเป็น “คณิตศาสตร์ ก.”หรือ “คณิตศาสตร์ กข.” ดั่งผู้ที่ได้ผ่านการเรียนการสอนระดับมอปลายนั้นเคยผ่านหูผ่านตามาบ้างแล้ว

“คณิตศาสตร์ รส.” เป็นเพียงเรื่องสั้นในแนวคณิตศาสตร์....เป็นเพียงแค่เรื่องประโลมโลกเรื่องหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ได้แตกต่างจากหนังสือรวมเรื่องสั้นเล่มอื่นเล่มใด หากแม้นจะมีผิดแผกจากทั่วไปบ้างก็คือว่านี่เป็นการรวมเรื่องประโลมโลกถึงสิบเรื่องในหนังสือหนึ่งเล่ม ก็เพียงแค่นั้น

‘ไอเชน’คิดเรื่องสถานะทางการเงินของครอบครัว หมกมุ่นเรื่องมูลค่าของตัวเลขและตีราคาเป็นความเคียดแค้น ‘อิ๊กคิว’มองรักเป็นเศษส่วน..และหวังว่ารักจะหาค่าไม่ได้ ‘ไอหมู’ผู้ที่สามารถหาคำตอบในโจทย์ได้ แต่ไม่สามารถเข้าใจความหมายที่แท้จริงในเรื่องพหุนาม หรือแม้กระทั่ง”คำนวณ”ชายผู้ซึ่งมองเห็นความงดงามของตัวเลข แต่กลับเดินได้ยากบนโลกมนุษย์ผืนนี้...

ทั้งหมดล้วนเดินวนเวียนอยู่ในหนังสือเล่มนี้ ในโลกของวรรณกรรม
--- 10เดซิเบล


จากใจกำมะหยี่ :

คณิตศาสตร์ รส. เล่มนี้ ไม่ใช่ตำราเรียนวิชาคณิตศาสตร์ แต่เป็นตำราเรียนวิชาชีวิต

คณิตศาสตร์ในความหมายของ10เดซิเบล คือ สิ่งที่อยู่รอบตัวเราทุกหนทุกแห่ง ในจิตใจของมนุษย์ การปฏิสัมพันธ์กับสังคมภายนอก ความรักและชีวิตในวัยเด็ก คณิตศาสตร์ในโลกของ 10 เดซิเบล คือ พื้นที่อันเป็นอุดมคติในโลกแห่งนามธรรม แตกต่างจากในโลกแห่งความเป็นจริง ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความไม่น่าจะเป็น และ10เดซิเบลสามารถบรรยายโลกใบนั้นผ่านงานเขียนของเขา ได้อย่างน่าประหลาดใจ

หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบ ใครหลายคนที่ปฏิเสธคณิตศาสตร์อาจจะได้รู้สึกว่า ที่จริงแล้ว คุณไม่ได้เกลียดคณิตศาสตร์หรอก แต่เกลียดครูคณิตศาสตร์มากกว่า


เขาว่ากันว่า :

- งานของสิบเดซิเบลมีความขัดแย้งในตัวสูง ทั้งยียวนกวนประสาทและเต็มไปด้วยความรู้ เขาเคยเป็นครูสอน คณิตศาสตร์ เขาเคยเขียนเรื่องทะลึ่งทะเล้นลามก ลองบวกลบคูณหารคุณสมบัติเหล่านี้เข้าด้วยกัน น่าจะได้ผลลัพท์ที่ บันเทิงและประเทืองปัญญา ปัดเศษให้เป็นเลขกลมๆ แล้วคุณจะได้กำไรไม่น้อยทีเดียว – ปราบดา หยุ่น

- น่าเสียดายที่ป๊าของผมไม่ได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ไม่อย่างนั้นผมจะลองเอาหนังสือเล่มนี้ไปให้ป๊าอ่าน และคะยั้นคะยอให้บรรจุเข้าไปเป็นหนึ่งในแบบเรียน - นิ้วกลม

>>คลิกดาวน์โหลดตัวอย่างไปลองอ่านดู