Mar 24, 2009

++ เส้นแสงที่สูญหาย เราร้องไห้เงียบงัน


ผู้แต่ง: ฮารูกิ มูราคามิ
ผู้แปล: ปาลิดา พิมพะกร, วิวัฒน์ เลิศวิวัฒน์วงศา,ธนรรถวร จตุรงควาณิช, นฆ ปักษนาวิน, โตมร ศุขปรีชา
จัดพิมพ์ครั้งที่: 1 (มีนาคม 52)
จำนวนหน้า: 176 หน้า
ราคา: 175 บาท

รวมเรื่องสั้น “เส้นแสงที่สูญหาย เราร้องไห้เงียบงัน " เป็นบทพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่า มูราคามิยังคงสั่นสะเทือนคนอ่านให้สั่นไหว เยียบเย็น และนิ่งอึ้ง รวมทั้งทิ้งปริศนาท้าทายให้คนอ่านขบคิดได้อย่างไม่รู้จบ ตัวหนังสือของเขายังคงคว้านหลุมอันเว้าแหว่งในจิตใจของเราให้ลึกลงไป ลึกลงไป เพื่อที่จะพบว่าความมืดมิดในก้นบึ้งของจิตใจเรานั้น ปลอบโยนและเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเราเสมอมา


จากใจกำมะหยี่

เรื่องสั้นเป็นเรื่องสนุก

หลังจากถอนใจเฮือกด้วยความโล่งอกออกหนังสือนิยายแปลของฮารูกิ มูราคามิ สามเล่มรวดเสร็จไป พลพรรคสำนักพิมพ์กำมะหยี่ก็ชักติดใจ อาจหาญสอดส่ายสายตาหาหนังสือเล่มใหม่ของนักเขียนใหญ่ผู้นี้ต่อในทันทีโดยไม่มีรีรอขอเวลาเช็คยอดขายเล่มเดิมๆ ก่อน และแล้วความคิดเรื่องการจัดแปล-จัดพิมพ์รวมเรื่องสั้น 3 เล่มเล็กๆ ที่ยังไม่มีภาคภาษาไทยวาบเข้ามา

แค่เริ่มต้นคิดดังๆ ก็มีคำเตือนที่เรามักจะถือเป็นเสมือนคำท้าทายเข้ามาว่า งานเรื่องสั้นขายไม่ได้ ถึงจะเป็นเรื่องสั้นของนักเขียนดังแค่ไหน แต่มูราคามิเขียนเรื่องยาวสนุกกว่า

ถ้าไม่ใช่ความดื้อรั้นก็คงจะเป็นความดื้อด้าน จากนั้น เราก็เริ่มอุตริคิดหาวิธีการทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องสนุกด้วยการกวาดต้อนแฟนๆ ของมูราคามิมารวมหัว จัดสรรแบ่งงานกันเพื่อรวบรวมทยอยออกเป็น 3 เล่ม คือ Firefly, Barn Burning and other stories หรือในชื่อภาษาไทยที่ตั้งได้เหงาเจียนจะขาดใจว่า “เส้นแสงที่สูญหาย เราร้องไห้เงียบงัน” เล่มนี้ ต่อด้วย The Second Bakery Attack และ Lexington Ghosts โดยได้พี่แป๊ด - ดวงฤทัย เอสะนาชาตัง บรรณาธิการสำนักพิมพ์ระหว่างบรรทัด พี่สาวคนดีมาช่วยเป็นแม่งาน ติดต่อล่อหลอกนักแปลมาร่วมลงเรือลำเดียวกัน และนอกจากต้องคอยออกแรงจับปูใส่กระด้งติดตามต้นฉบับแล้ว ยังกรุณานั่งแท่นบรรณาธิการให้ด้วย

กำมะหยี่ขอขอบคุณนักแปลและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่มาช่วยกันทำความคิดสนุกๆ ของสำนักพิมพ์เล็กๆ อย่างเราให้เป็นความจริงอย่างสวยงามจับเหมาะมือเช่นนี้ หวังว่าเราจะได้มีโอกาสสร้างความคึกคักให้กับวงการหนังสือไทยร่วมกันอีกครั้งในวันข้างหน้า และหวังว่าผู้อ่านจะสนุกไปกับเรื่องสนุกๆ ของเราด้วยเช่นกัน



แม่งานแถลงไข

มูราคามิเคยบอกว่า การเขียนนวนิยายสร้างความท้าทายกับเขา แต่การเขียนเรื่องสั้นให้ความสนุกสนาน ถ้าจะเปรียบไปแล้ว นวนิยายเป็นความพยายามในการปลูกป่าแต่เรื่องสั้นเหมือนการเพาะปลูกสวนอันรื่นรมย์ เรื่องสั้นบางเรื่องก็เป็นต้นเรื่องของนวนิยายของเขาด้วย ตัวอย่างอันดีคือ “เส้นแสงที่สูญหาย เราร้องไห้เงียบงัน” คือต้นเรื่องนวนิยาย “ด้วยรัก ความตาย และหัวใจสลาย”(ซึ่งตีพิมพ์ในฉบับภาษาไทยมาแล้วสองครั้ง) นักอ่านที่ต้องการศึกษาพัฒนาการงานเขียนของมูราคามิสามารถศึกษาการขยายงานเขียนของนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษนี้ได้เป็นอย่างดี

การมาเป็นแม่งานและบรรณาธิการของหนังสือชุดเรื่องสั้นมูราคามิ นำทั้งความสุขและความทุกข์มาให้ดิฉัน(แต่ถ้าจะเปรียบเทียบกันแล้ว ความสุขย่อมมีมากกว่าแน่นอน) สิ่งแรกที่เข้ามาในหัวคือการรวบรวมผู้ที่หลงใหลในงานมูราคามิ บางท่านก็เคยแปลงานของมูราคามิมาแล้ว บางท่านก็เป็นแฟนคลับตัวยงของมูราคามิ สิ่งหนึ่งที่ดิฉันพบคือการได้พูดคุยกับผู้ที่หลงรักมูราคามิด้วยกัน นั้นเป็นความสุขอย่างยิ่ง

ดวงฤทัย เอสะนาชาตัง
บรรณาธิการเล่ม
http://a-wild-sheep-chase.bloggang.com

>> ลองอ่านตัวอย่าง

>> คลิกไปติดตามความเคลื่อนไหวของหนังสือชุด "แฟนมูราคามิรวมหัว"

No comments: