
ผู้แต่ง : 10เดซิเบล
จัดพิมพ์ครั้งที่ 1 (ตุลาคม 2551)
จำนวนหน้า 192
ราคา : 155 บาท
ระวังคำดิบ!!!
(เ)วรรณกรรมเยาว(ะ)ชนแบบสมจริง เหมาะกับผู้อ่านใจกว้าง ผู้ปกครองควรซื้อเอาไว้แอบอ่านเอง
งานเขียนที่ฉีกกฎทุกข้อที่วรรณกรรมที่ดีควรมี หนำซ้ำยังเหยียบย่ำและขยี้มัน ไม่มีข้อคิดทำดีได้ดี-ทำชั่วได้ชั่วแบบนิทานอีสป ไม่มีชาวนายากจนข้นแค้นที่สุดท้ายต่อสู้แล้วรับความยุติธรรม เรียกร้องสันติเพื่อมวลมนุษย์ ไม่มีข้อคิดให้มองโลกในแง่ดี
พูดง่ายๆ ว่าไม่ใช่แนวที่เขียนแล้วจะได้รางวี่รางวัลอะไรประมาณนั้นแหละ
จากผู้เขียน
เคยคิดเล่นๆในเวลาว่างว่า หากแม้นหนังสือเล่มนี้เป็นสิ่งมีชีวิตเช่นคน มันคงมีเรื่องคั่งค้างอยู่ในหัวสมองของมันไม่น้อย ทั้งปัญหาที่มาจากความคับข้องใจ น้อยใจ อาจรวมถึงไม่เข้าใจในสิ่งที่มันเป็นอยู่ มันเคยเป็นดาวรุ่งที่พุ่งแรงสุดๆในช่วงเวลาหนึ่ง และเคยเป็นเด็กที่หมดอนาคตเพียงไม่นานหลังจากนั้น มันคงแอบถามตัวเองอยู่บ่อยๆว่า ทำไม ทำไม และทำไม
ในมุมมืด
ผมเองปลอบมันอยู่เสมอ ในวันที่ผู้คนไม่สนใจใยดีมัน ผมบอกมันว่าอย่าได้เสียใจในสิ่งที่มันเป็นอยู่และมีอยู่ นั่นเพราะเหตุเกิดจากผม ไม่ใช่มัน หรืออาจเกิดจากความใจคับใจแคบของคนทำงานศิลปะ ผมทั้งปลอบใจมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขอโทษมัน บอกมันด้วยน้ำตาว่า ทั้งหมดทั้งปวงไม่ใช่เหตุเกิดจากเพราะตัวมัน สาเหตุเกิดจากผมเองล้วนๆ หากแม้นมันจะถือโทษโกรธ ผมยินดีรับไว้
เวลาผ่าน...ทั้งผมและมันพูดจากันน้อยลง ต่างคนอาจต่างมีคำถาม ต่างคนต่างทบทวนตัวเอง บ้างไปไกลถึงขั้นโทษตัวเอง มันเคยสบถในมุมมืดว่าเป็นเพราะมันเองเรื่องถึงเป็นเช่นนี้ หากแม้นมันไม่ใช่คนปากคอเราะร้าย หากแม้นมันหัดพูดในสิ่งที่คนอื่นอยากฟังบ้าง บางที...และบางที ผมเองได้แต่ฟังมันในวินาทีนั้น ได้แต่นั่งเงียบ เหมือนนั่งฟังเพลงที่มีทำนองเศร้าโศก ยิ่งนานไปก็ยิ่งจมลึก ยิ่งมันโทษตัวเองเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นเท่านั้น เป็นขวบปีที่เราได้แต่รออยู่ในความเงียบ
แล้ววันหนึ่งก็มีคนเห็น....เขาเข้ามาพูดกับเรา ถามว่าเราหายไปไหน มาหาเราถึงบ้าน ในวันที่บทสนทนาร้างลาจากเราทั้งสองไปลับ เขาถามถึงเรื่องราวของเรา ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขามีเวลาให้เราพูด มีเวลาให้เราอธิบายตัวตนของเรา ในวันนั้นเราแอบสบตากัน แอบยิ้มให้กัน เขาคนนั้นทำให้เรามีความหวังอีกครั้ง เขาบอกว่าเขาจะไม่ทิ้งเรา คำนั้นทำให้น้ำตาเราคลอเบ้า เพราะเรารู้ซึ้งถึงคำว่าถูกทอดทิ้งดี วินาทีนั้นเราไม่อาจไม่คาดหวังได้ ความรักของเรารุนแรงเกินที่จะทำให้เราไม่คาดหวัง....แม้นโอกาสจะมีอยู่น้อยนิดก็ตามที
เมื่อเขากลับไป เราได้แต่หัวเราะและยิ้มให้กัน ฝันไปไกลต่างๆนานาว่าเราจะไปได้ไกลแค่ไหน เราสองคนกอดกันด้วยน้ำตา แต่อีกวินาทีผ่าน...เรากลับกลัดกลุ้ม ความเจ็บปวดสอนให้เราเจียมตัว แต่อีกไม่กี่วินาทีผ่านเราก็กลับมาหัวเราะกันอีกครั้ง ผลัดกันให้กำลังใจกัน...วินาทีนั้นสิ่งเดียวที่สามารถทำได้คือการมองโลกในแง่ดี
แล้ววันหนึ่งวันนั้นก็มาถึง ผมเองยิ้มให้กับมัน ยิ้มอย่างที่รอยยิ้มที่พ่อคนหนึ่งมีให้ลูกยามเห็นลูกไปได้ดี
“หนังสือเล่มนี้ปรากฏ” ยืนยันว่าเขาคนนั้นไม่โกหก สำคัญสุดคือโลกนี้มีความยุติธรรมเพียงพอ
10เดซิเบล
สิงหาคม 2551

หนังสือเล่มนี้โกงอายุ !!! ...
ที่จริงแล้วควรจะได้ชื่อว่า 30+ มากกว่า
เพราะผู้ที่จะอ่านหนังสือเล่มนี้ได้รสชาติและเข้าใจบรรยากาศที่สุด คือ คนที่เติบโตมากับมานี มานะ เคยดื่มเป๊ปซี่ราคาขวดละ 5 บาท ทีวียังมีโลกดนตรีและเจ็ดสีคอนเสิร์ตให้ไปกรี๊ดพี่แจ้และสาวสาวสาว มาบุญครองยังรั้งตำแหน่งศูนย์กลางวัยรุ่นร่วมสมัยในเมืองกรุง ขณะที่คนรุ่นก่อนหน้าอ่านแล้วอาจจะอมยิ้มหรือหัวเราะให้ความโฉดฉาวที่ละม้ายคล้ายกันในช่วงชีวิตของตนได้อย่างไม่สะดุด ส่วนคนรุ่นหลังวัย 18+ จะได้รู้ว่า ยุคสมัยที่แตกต่าง อาจมีบางสิ่งที่ไม่เหมือนกัน หากบางอย่างมิได้เปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่น้อย
ชีวิตในแต่ละยุค โดยเฉพาะช่วง “เด็กไม่ใช่ ผู้ใหญ่ก็ไม่เชิง” เป็นความทรงจำที่ผู้ใหญ่ทุกคนพึงระลึกถึง แม้ภาพเหล่านั้นมักจะงดงาม (เมื่อเราผ่านพ้นมาได้และมันกลายสภาพเป็นความทรงจำ) แต่ก็ยากที่จะสรุปว่าชีวิตของใครจะเป็นแบบอย่างหรือแนวทางให้ใครได้ เราไม่คิดจะกีดกันเยาวชนจากการชิงสุกก่อนห่ามด้วยการอ่านหนังสือเล่มนี้ แต่ยังใคร่จะขอย้ำอีกครั้งอย่างเป็นทางการว่า 18+ เป็นหนังสือสำหรับผู้ใหญ่ (และผู้หญิง) ที่มีใจเปิดกว้าง
ถ้าไม่แน่ใจตัวเอง ลองเปิดอ่านหนังสือเล่มนี้ดู และโปรดตระหนักไว้ด้วยว่า... เราเตือนคุณแล้ว
(วางแผงครั้งแรก งานมหกรรมหนังสือ 11-23 ตุลาคม 2551 นี้)
>> คลิกไปลองอ่านดู

เขาว่ากันว่า :
ถึงจะรู้ว่าเป็นจริงในสังคมมนุษย์ไม่ได้ แต่ครั้งหนึ่งผมเคยฝักใฝ่ในทัศนคติแบบอนาธิปไตย โดยเฉพาะในงานศิลปะ อนาธิปไตยสร้างความตื่นเต้นที่ชวนให้ตื่นตัว หลายครั้งผมหวังจะสร้างงานที่เต็มไปด้วยความดิบ สับสน แต่เต็มไปด้วยพลังของการแสดงออก แต่ผมพบว่าผมเป็นคนเจ้าระเบียบเกินไป รักสะอาดเกินไป และสุภาพเกินไป ผมอ่านผลงานเขียนของ 10เดซิเบล ด้วยความอิจฉาในคุณสมบัติอนาธิปไตยของเขา เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องยืนยันว่า ในศิลปะทุกแขนงควรมีผลงานแบบนี้แอบแฝงอยู่ ปราบดา หยุ่น
โฆษณาแอบแฝง

หนังสือเกี่ยวกับเรื่องรักๆ
“รัก” คำที่แสนสั้นแต่สามารถอธิบายอะไรได้ยืดยาว บ้างสุข บ้างทุกข์ รวมถึงความว่างเปล่าที่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และนั่นอาจหมายถึง “รักหมายเลข 0”
หนังสือนอกสำนักที่เราขอร่วมภาคภูมิใจเสนอ เพราะเป็นงานที่เกิดขึ้นจากหัวใจ และที่สำคัญคือการลงแรงกายคนละไม้ละมือของผู้ร่วมงานหลากหลายสังกัด ตั้งแต่หน้าปก รูปเล่ม จนถึงแท่นพิมพ์ ทำให้ “สำนักพิมพ์. 1” ประกอบด้วยความรัก ความรักที่นำไปสู่การตั้งราคาขายเท่ากับราคาทุน ด้วยสูตรศูนย์จุดหกคูณราคาหน้าปก
55 บาทขาดตัว หมดแล้วหมดเลย
เพราะปรากฏการณ์มหัศจรรย์เช่นนี้คงจะไม่บังเกิดขึ้นอีกบ่อยนัก
หาซื้อได้ที่งานมหกรรมหนังสือเดือนตุลาคม 2551 นี้ เช่นกันจ้า
1 comment:
อยากอ่านมากๆทั้งสองเล่ม แต่หาซื้อไม่ได้เลยค่า หายากจัง
Post a Comment