Oct 6, 2010

ร่วมลุ้น... ฮารูกิ มูราคามิ อาจได้รับโนเบลวรรณกรรม 2010

ฮารูกิ มูราคามิ อาจจะได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมล่ะเธอ!!!

คุณ Mariko Sanchanta รายงานไว้ที่เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal เมื่อวานนี้ ข่าวใหญ่อย่างนี้ ชาวกำมะหยี่พลาดไม่ได้ ขอกระจายด่วน

ผู้ที่สนใจอ่านข่าวในภาษาอังกฤษ คลิกหัวข้อข้างล่างตามไปดูได้ค่ะ

And the Nobel Prize Winner is… Haruki Murakami?


ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นมีความตึงเครียดกระจายอยู่ในอากาศ เปล่า หามิได้ ไม่เกี่ยวกับประเทศจีนแต่อย่างใด หากเป็นเพราะนักเขียนที่มีชีวิตอยู่ชื่อดังที่สุดของญี่ปุ่น ฮารูกิ มูราคามิ เป็นหนึ่งในนักเขียนที่มีโอกาสสูงที่สุดที่จะได้รับรางวัลทางวรรณกรรมอันทรงเกียรติที่สุด นั่นคือรางวัลโนเบลประจำปีนี้ ซึ่งมีกำหนดการประกาศผลวันพฤหัสบดี (7 ต.ค.53) นี้

ทุกวันนี้ ญี่ปุ่นกำลังโหยหาวีรบุรุษประจำชาติ หลังจากสูญความภาคภูมิใจในชาติไปหลายต่อหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จีนแย่งตำแหน่งประเทศที่มีเศรษฐกิจรุ่งเรืองอันดับสองของโลกไปในไตรมาศที่สองของปี มาโอะ อะซาดะ นักสเก็ตน้ำแข็งขวัญใจของประเทศเสียเหรียญทองให้กับคิม ยู-นะ คู่แข่งชาวเกาหลีในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว ส่วนในฤดูร้อน ทีมญี่ปุ่นปลุกกำลังใจให้ประเทศด้วยการเล่นอย่างแข็งแกร่งเข้ารอบแรกในการแข่งขันฟุตบอลโลก แต่ก็เข้าไปถูกปารัควัยเขี่ยตกรอบสอง และผู้ที่ครองตำแหน่งแชมเปียนซูโม่อยู่ในขณะนี้ คือ ฮาคูโฮ ซึ่งเป็น ... คนมองโกเลีย


เพราะเหตุนี้ สายตาทุกคู่จึงหันมาจับจ้องคุณมูราคามิ ผู้ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์อย่างไม่ค่อยจะเกิดขึ้นบ่อยนักที่จะได้เป็นวีรบุรุษของชาติเมื่อมีอายุได้ 61 ปี แต่ความเป็นไปได้ในการชนะรางวัลโนเบลอันเลื่องชื่อในวันพฤหัสบดีนี้ก็มีสูงกว่าที่เคยปรากฎในอดีต ตามที่แลดโบรคส์ โต๊ะพนันที่อังกฤษให้ข่าว มูราคามิอยู่อันดับที่สามในกลุ่มผู้ที่อาจจะได้รับรางวัล ด้วยอัตราต่อรอง 7/1 ส่วนผู้มีสิทธิ์อันดับที่หนึ่งคือ งูกิ วา ธิออง โอ นักเขียนชาวเคนยาผู้เคยติดคุกในปี ค.ศ. 1977 เพราะไปวิจารณ์รัฐบาลในละครเวทีที่เขาเขียน และทำให้ต้องลี้ภัยไปอยู่สหรัฐอเมริกา (อัตรา 3/1) ส่วนอันดับสองคือ คอร์แม็ค แม็คคาธี นักเขียนอเมริกันผู้เขียน “No Country for Old Men” ด้วยอัตราต่อรองใกล้เคียงกับมูราคามิแบบเฉียดฉิว (ที่6/1)

ฮารูกิ มูราคามิ เป็นซูเปอร์สตาร์ในวงการวรรณกรรมยุคหลังสมัยใหม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด นวนิยายของเขามีแฟนๆติดตามในระดับนานาชาติ หลังจากออก นอร์วีเจียน วูด ที่ทำเป็นภาพยนตร์เมื่อเร็วๆ นี้ ขณะที่ 1Q84 นวนิยายล่าสุดที่วางขายสามเล่มในญี่ปุ่น ขายดิบขายดีเป็นหนังสือปกแข็งที่ขายได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น คือ มากกว่าสามล้านแปดแสนเล่ม

สมมติว่าเขาได้รางวัลโนเบล เขาก็จะเข้าอยู่ในกลุ่มคนเล็กๆ เพราะมีนักเขียนญี่ปุ่นแค่สองคนเคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม คือ เคนซาบุโร โอเอ ในปี 1994 และ ยาซุนาริ คาวาบาตะ ในปี 1968

หลายต่อหลายปี มีเสียงวิพากย์วิจารณ์มากมายโจมตีงานของมูราคามิว่าเป็นงานตลาดบ้างล่ะ เป็นหนังสือเริงรมย์บ้างล่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่เขาทำได้คือ ความนิยมชมชอบ และเป็นนักเขียนญี่ปุ่นเพียงคนเดียวที่มีหนังสือติดอันดับขายดีข้ามประเทศอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าคณะกรรมการตัดสินรางวัลโนเบลที่กรุงสต็อคโฮล์มจะรับเอาเรื่องนี้ไปพิจารณาด้วยหรือไม่ แต่ญี่ปุ่นก็ยังเชียร์เขาอย่างเงียบงันหากแข็งขันต่อไป


--- หมายเหตุ---

- นอร์วีเจียน วูด หรือในชื่อไทยว่า ด้วยรัก ความตายและหัวใจสลาย สำนวนแปลของคุณ นพดล เวชสวัสดิ์ ยังมีจำหน่ายอยู่ตามร้านหนังสือทั่วไป ข้างล่างนี้เป็นหนังโฆษณาภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากหนังสือเล่มนี้




- สนพ.กำมะหยี่กำลังจัดแปล 1Q84 สองเล่มแรกเป็นภาษาไทยอยู่



- ใครชอบงานนักเขียนโนเบล รอติดตาม The Golden Notebook ของดอริส เลสซิ่ง นักเขียนชาวอังกฤษ เจ้าของรางวัลโนเบลปี 2007 แปลโดย คุณนพมาศ แววหงษ์ ได้ อีกไม่นานนักจ้ะ

No comments: