May 28, 2012

วิถีฮารุกิ มูราคามิ : ตัวตนของตัวละคร สัมผัสจากการจับมือ

ส่วนหนึ่งของสกู๊ปพิเศษ “บทสัมภาษณ์ มุราคามิ ฮารุกิ ขนาดยาว”คังกาเอรุ ฮิโตะ (thinker)(นิตยสารราย 3 เดือน) ฉบับฤดูร้อน  ปี 2010 (วางขายเดือนสิงหาคม)
ผู้สัมภาษณ์ มาซาชิ มัตสึอิเอะ  หัวหน้ากองบรรณาธิการ คังกาเอรุ ฮิโตะ  ใช้เวลาสัมภาษณ์ถึง 3 วัน !!!
ขอขอบคุณมุทิตา พานิช ผู้มีน้ำใจแปลมาฝากแฟนๆ ชาวไทยของเฮียมูมา ณ ที่นี้ค่ะ

(คลิกไปอ่าน ความเดิมก่อนหน้า ที่มาที่ไปได้  >> ที่นี่ค่ะ)


จับมือกันไว้ แล้วไปด้วยกัน

--- ผู้คนที่ออกมาใน ‘1Q84’  นอกจากเท็งโกะและอาโอมาเมะแล้ว แม้แต่ทามารุ อุชิคาวะ มาดามแห่งคฤหาสน์ยานางิ ทุกคนต่างถูกบังคับให้มีชีวิตอย่างอดกลั้นในวัยเด็ก และมีบาดแผลในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ผู้คนที่ถ้ายังคงเป็นอย่างนั้นอาจพังทลายไป พวกเขาต่างหลุดรอดออกมาด้วยกำลังของตนเอง สร้างตัวตนของตนเองขึ้นมาได้ท่ามกลางความโดดเดี่ยว คิดว่าในเรื่องนี้ค่อนข้างบรรยายให้เห็นภาพชัดเจนว่า ปัจเจกผู้ต่อต้านสิ่งที่เรียกว่าระบบต้องสร้างตัวตนท่ามกลางความโดดเดี่ยว

มุราคามิ     การสร้างตัวตนของตนเองนั้น สำหรับปัจเจกแต่ละคนบางคนก็ประสบผลสำเร็จ แต่ที่ไม่สำเร็จก็มี กรณีอาโอมาเมะกับเท็งโกะมีประเด็นสำคัญคือความรัก แต่สำหรับทามารุหรืออุชิคาวะ ความรักไม่ได้มีพลังที่ทำให้เกิดผลขนาดนั้น ทามารุทั้งแข็งแกร่งและเยือกเย็น เป็นคนที่มีเสน่ห์มาก แต่ว่าไปแล้วเขาตกลงใจลงเอยอยู่ในสถานที่ที่กำลังอยู่ในตอนนี้ เขาไม่ใช่คนที่ต้องการเป็นหนึ่งเดียวกับผู้อื่นอย่างลึกซึ้งในทางจิตวิญญาณ ทำไมน่ะหรือ เพราะถ้ามองเรื่องการเรียกร้องต้องการความรัก จากกรณีของอาโอมาเมะก็จะเข้าใจว่าการเรียกร้องต้องการความรักนั้นในขณะเดียวกันก็เป็นการต้อนตัวเองเข้าสู่ภาวะอันตราย อุชิคาวะเองสุดท้ายก็มุ่งไปสู่จุดจบเช่นนั้นอย่างไม่มีทางเลี่ยง

--- ใน ‘1Q84’ สิ่งที่ลืมเลือนได้ยากคือฉากการจับมือกัน พออ่านจบแล้ว สัมผัสความรู้สึกทางกายที่ติดมายังคงอยู่และซึมลึก ฉากที่อาโอมาเมะอายุสิบขวบจับมือเท็งโกะเป็นฉากยิ่งใหญ่ที่สุด มีเขียนบรรยายรายละเอียดไว้หลายครั้ง นอกจากนั้นแล้ว ตอนที่อาโอมาเมะไปคฤหาสน์ยานางิหลังงานฆาตกรรมที่ชิบุยะ ทามารุก็ยื่นมือขวามาให้จับ มาดามแห่งคฤหาสน์ยานางิก็จับมืออาโอมาเมะด้วย ฟุคาเอริจับมือเท็งโกะไว้ตลอดในรถไฟ คิดว่านิยาย ‘1Q84’ แสดงให้เห็นซ้ำหลายครั้ง ว่ากิริยาการจับมือกันช่างสดใหม่และลึกซึ้งยิ่งนัก ทุกๆ ครั้งคุณเขียนพรรณาไว้อย่างประณีต 

มุราคามิ  พอคุณว่าอย่างนั้น ก็รู้สึกว่าจริงที่ในหนังสือเรื่องนี้มีฉากจับมือกันมากทีเดียว มีวิธีการจับมือต่างๆ นานา ไม่เคยคิดมาก่อนเลย

--- คงเป็นเพราะแก่นของนิยายเรื่อง ‘1Q84’ นี้ พูดถึงวิธีคิดถึงความรัก วิธีปลุกพลังความรัก อย่างนั้นใช่ไหม

มุราคามิ  แก่นกลางของร่างกายมีความอบอุ่นที่มั่นคงแน่นอนไม่ชืดชาไปง่ายๆ เรามีสัมผัสความรู้สึกทางกายนี้ติดตัวอยู่ คิดว่านี่คือสิ่งสำคัญ ตัวละครต่างๆ อาจกำลังยืนยันความรู้สึกทางกายนี้ผ่านการจับมือ อาจกำลังค้นหาว่าหินถ่วงน้ำหนักซ่อนอยู่ที่ไหน ผมไม่รู้สึกถึงสิ่งที่เหมือนกับหินถ่วงน้ำหนักที่ว่านี้ในสาวกของโอมฯที่ผมไปสัมภาษณ์มา คำพูดของพวกเขาลื่นไหล มีตรรกะแม่นยำ ฟังเข้าใจ แต่สิ่งที่สื่อออกมาจากแก่นกลางของร่างกายเบาบางมาก

    แต่สำหรับผู้เสียหายที่ผมได้พบ พวกเขามีสิ่งนี้อยู่ เป็นความรู้สึกทางกายที่ซึมออกมาอย่างเป็นธรรมชาติผ่านเรื่องราวต่างๆ ที่ชีวิตความเป็นอยู่ประจำวันสร้างขึ้นมา เหมือนน้ำซึมผ่านชั้นของดินลงไป อาจเป็นสิ่งเล็กน้อยแสนธรรมดาสามัญ สิ่งที่ปรากฏออกมาอาจไม่ได้ดูดีนักสำหรับบางคน  แต่มีความรู้สึกทางกายที่ยื่นมือออกไปก็สัมผัสได้ สิ่งนั้นบอกว่าคนคนนี้เป็นคนอย่างไร สิ่งนั้นสร้างบุคลิกลักษณะของคนนั้นขึ้นมา จะประเมินค่าบุคลิกลักษณะของคนนั้นหรือจะไม่ทำ จะชอบเขาหรือไม่ชอบ  จะอย่างไรสิ่งนี้ก็มีอยู่

    ทั้งเท็งโกะและอาโอมาเมะ สามารถรับสิ่งที่อาจเรียกได้ว่าความอบอุ่นจากแกนกลางของร่างกายมาเป็นเจ้าของได้จากการจับมือกันแน่นเมื่อตอนอายุสิบขวบ เป็นความทรงจำทางกายที่ชัดเจนมาก ผลที่เกิดขึ้นคือความทรงจำแห่งความอบอุ่นนั้นได้ช่วยพวกเขาสองคนไว้ แต่ทั้งอุชิคาวะและทามารุคงไม่เคยมีประสบการณ์อย่างนั้น

(ตอนต่อไป  :  >> วิถีฮารูกิ มูราคามิ : หลุมที่เรียกว่าเรื่องแต่ง และการส่องสะท้อนตัวเอง)

(ภาพประกอบเป็นภาพประกอบการสัมภาษณ์ครั้งนี้จากนิตยสาร thinker ญี่ปุ่น)

No comments: